การเชื่อมด้วยแก็สออกซิอะเซทิลีน
2.1 ความหมายของการเชื่อมแก็ส การเชื่อมแก็ส หมายถึง การทำให้โลหะหลอมละลายติดกัน โดยอาศัยความร้อนที่เกิดจากการเผาไหม้ของก๊าซเชื้อเพลิงและออกซิเจน ในการหลอมละลายติดกันของโลหะนั้นจะเติมโลหะหรือให้โลหะหลอมละลายติดกันเองได้
2.2 ชนิดของเปลวไฟ 2.2.1 เปลวไฟคาร์บูไรซิ่งเฟรม เกิดจากส่วนผสมของแก๊สอะเซทิลีนในปริมาณที่มากกว่าแก๊สออกซิเจน 2 เท่า หรือในอัตรา 2:1 ให้ความร้อนประมาณ 3000 C โดยลักษณะเปลวไฟยาว 3 ชั้น ชั้นนอกเป็นกรวยพุ่งยาวสีส้มอ่อน กรวยชั้นที่ 2 สีฟ้าและชั้นที่ 3 สีขาว 2.2.2 เปลวนิวทรัลเฟรม เกิดจากส่วนผสมของแก็สอะเซทิลีนและออกซิเจนในปริมาณเท่ากันคือ อัตรา 1:1 ให้ความร้อนประมาณ 3200 C ลักษณะเปลวไฟ เปลวจะสั้นกว่าเปลวคาร์บูไรซิ่งเฟรม มี 2 ชั้น ชั้นนอกเป็นกรวยสีฟ้า ชั้นในเป็นกรวยแหลมสีขาว เป็นเปลวไฟที่ใช้กันมาก เพราะสามารถเชื่อมโลหะได้หลายชนิด เช่น เหล็กเหนียว เหล็กหล่อ เงิน ทองแดง 2.2.3 เปลวออกซิไดซิ่งเฟรม เกิดจากส่วนผสมของแก๊สออกซิเจนในปริมาณที่มากกว่าแก๊สอะเซทิลีน 2 หรือในอัตรา 2:1 ให้ความร้อนมากที่สุดคือ 3400 C ลักษณะเปลวไฟจะสั้นกว่าเปลวกลาง กรวยใน 2 ชั้นเหมาะสำหรับการเชื่อมเหล็กหล่อ
2.3 ลวดเชื่อมแก๊ส ในการเชื่อมแก๊สนั้น ในบางครั้งไม่จำเป็นต้องเติมลวดเชื่อมเช่น การต่อมุม ต่อขอบ หากลักษณะรอยต่อนอกเหนือจากที่กล่าวมา ต้องเติมลวดเชื่อม ลวดเชื่อมแก็สโดยทั่วไปจะมีขนาด 2.6 มม. และ 3.2มมยาว36 นิ้ว - ลวดเชื่อมที่เป็นเหล็ก จะเคลือบด้วยทองแดงเพื่อป้องกันสนิม จะใช้สำหรับการเชื่อมโลหะที่เป็นเหล็กแผ่นหรือท่อ - ลวดเชื่อมที่ไม่ใช่เหล็ก จะใช้สำหรับเชื่อมโลหะอื่นที่ไม่ใช่เหล็ก เช่น โลหะผสมโครเมียมนิเกิลจะใช้ลวดเชื่อมทองเหลืองใช้ฟลั๊กซ์ช่วยในการเชื่อม อลูมิเนียม
2.4 ฟลั๊กซ์ ฟลั๊กซ์ คือ ตัวที่ช่วยป้องกันไม่ให้ออกซิเจนในอากาศรวมตัวกับแนวเชื่อมในขณะเชื่อม ซึ่งจะทำให้คุณภาพในการเชื่อมลดลง เช่น ความแข็งแรงต่ำ เกิดการกัดกร่อนง่ายเนื่องจากออกซิเจนในอากาศรวมตัวกับแนวเชื่อม ทำให้เกิดสนิมในที่สุดและที่สำคัญ ช่วยทำให้การเชื่อมได้ง่ายขึ้น การใช้งานทำได้โดยนำลวดเชื่อมมาเคลื่อบฟล็กซ์ อาจใช้วิธีทำ หรือของเหลวแล้วแต่ลักษณะงานและความเหมาะสม
วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ดีมีสาระ
ตอบลบ